ความสำคัญและเป็นมา ( โปสการ์ด )
ครอบครัวคุณศตพร ดีพา (เรณู จุลสุคนธ์) ได้ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆเหล่านั้น มาตั้งแต่ปี 2524 ต่อมาเมื่อสัตว์แข็งแรง หายจากการเจ็บป่วยก็เลยเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา กลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกภายในครอบครัว เมื่อเพิ่มจำนวนมากขึ้น สถานที่คับแคบ และเป็นภาระที่ต้องเลี้ยงดู ประกอบกับสัตว์ส่งเสียงดัง ส่งกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้าน จึงต้องย้ายสถานที่เลี้ยงออกไปนอกเมือง โดยตั้งชื่อว่า "บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ"
ต่อมาในปี 2532 คุณชวนชื่น โกมารกุล ณ นคร (ยั่งยืน) ได้ทราบข่าวและมาเยี่ยม แสดงประสงค์ให้ความช่วยเหลือ จึงจัดซื้อที่ดินบริจาค 200 ตารางวา ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมสร้างโรงเรือนถาวรให้ในปี พ.ศ. 2533 ในปี 2536 หลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้เมตตามาเยี่ยมโปรดสัตว์พิการ ได้เห็นถึงสภาพปัญหา และภาระของการเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ จึงจัดสร้างอาคาร และซื้อที่ดินติดกันให้อีก 1 ไร่ และอนุญาตให้ตั้งเป็น "มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน)" มาจนทุกวันนี้
ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้อุปการะสัตว์พิการ อาทิเช่น สุนัข แมว ลิง เต่า และสัตว์พิการอื่นๆ โดยเฉพาะสุนัขมีประมาณ 700-800 ตัว แมวประมาณ 100 กว่าตัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ให้ความสงเคราะห์สัตว์พิการที่บาดเจ็บ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีเจ้าของ ให้ได้รับการรักษา มีที่พักพิง และอยู่อาศัยตามอัตภาพ โดยมีสัตว์แพทย์ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร คอยให้การดูแลช่วยเหลือ
"ตัวเองเป็นคนรักสัตว์ค่ะ รักหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นอะไร แม้แต่ต้นไม้ก็ยังรัก ยิ่งมาเห็นสัตว์ป่วย สัตว์พิการ ก็ยิ่งสงสารมัน เคยมีคนถามว่า มาทำงานนี่ทำไม ทำไปแล้วได้อะไร ดิฉันก็ถามตัวเองอยู่เหมือนกัน คำตอบที่ได้คือ หมาที่ถูกรถชนมันเจ็บปวดแต่พูดไม่ได้ แต่มันก็ต้องการอะไรเหมือนเรา พอเรายื่นเข้าไปช่วย ให้ยา ให้ข้าว ให้น้ำ บางตัวพอหายดีแล้ว เห็นหน้าเรามันดีใจมาก ตามันจะฉ่ำไปด้วยความปลาบปลื้ม นี่คือคำตอบว่า "ทำไม" นั่นคือความภูมิใจลึกๆ มาตลอดระยะเวลาการทำงานกว่า 20 ปี ถึงจะมีปัญหามากมายในการทำงาน หรือมีความทุกข์บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มีความสุข มีความสุขที่ได้ทำ และได้เห็นงานที่เราเริ่มต้น มันไปได้ดี"
"เริ่มต้นจากการพบเห็นและเก็บสัตว์มาเลี้ยงไว้ด้วยความรัก ความเมตตาและอาทร ต่อมาได้เห็นสัตว์ถูกรถชน ถูกทำร้าย ถูกปล่อยทิ้งและจรจัดขาดที่พึ่งและเป็นที่รังเกียจต่อสังคม
ต่อมาในปี 2532 คุณชวนชื่น โกมารกุล ณ นคร (ยั่งยืน) ได้ทราบข่าวและมาเยี่ยม แสดงประสงค์ให้ความช่วยเหลือ จึงจัดซื้อที่ดินบริจาค 200 ตารางวา ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมสร้างโรงเรือนถาวรให้ในปี พ.ศ. 2533 ในปี 2536 หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้เมตตามาเยี่ยมโปรดสัตว์พิการ ได้เห็นถึงสภาพปัญหา และภาระของการเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ จึงจัดสร้างอาคาร และซื้อที่ดินติดกันให้อีก 1 ไร่ และอนุญาตให้ตั้งเป็น "มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)" มาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้อุปการะสัตว์พิการ อาทิเช่น สุนัข แมว ลิง เต่า และสัตว์พิการอื่นๆ โดยเฉพาะสุนัขมีประมาณ 700-800 ตัว แมวประมาณ 100 กว่าตัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ให้ความสงเคราะห์สัตว์พิการที่บาดเจ็บ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีเจ้าของ ให้ได้รับการรักษา มีที่พักพิง และอยู่อาศัยตามอัตภาพ โดยมีสัตว์แพทย์ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร คอยให้การดูแลช่วยเหลือ
บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ณ บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 1 ซอยพระมหาการุณย์ ถ.ติวานนท์ อ. ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นที่รวมของบรรดาสัตว์พิการกว่า 1,000 ชีวิต ทั้งหมา แมว นก เต่า ลิง ชะนี ฯลฯ ทุกชีวิตเหล่านี้ล้วนพิกลพิการ อันเนื่องมาจากการทารุณของทั้งน้ำมือมนุษย์และสัตว์ด้วยกันเอง ศตพร ดีพา หรือที่รู้จักกันมานานในนาม "เรณู จุลสุคนธ์" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิฯ ได้เริ่มต้นกิจกรรมแห่งความเมตตาสัตว์พิการที่น่าสงสารเหล่านี้มานานกว่า 20 ปี... 20 ปีแห่งหยาดเหงื่อและน้ำตา เพื่อเพื่อนร่วมโลกที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เหล่านี้ 06.00 น. เริ่มต้นที่เหล่าบรรดาพนักงานกว่า 20 ชีวิต ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่อย่างแข็งขัน บ้างล้าง ทำความสะอาดที่อยู่สัตว์ บ้างจัดเตรียมอาหารเช้าสำหรับสัตว์ บ้างออกตรวจเช็คดูสภาพสัตว์เลี้ยง หากตัวใดที่มีอาการเจ็บป่วยธรรมดา พนักงานก็จะดูแลกันไป โดยทำความสะอาดแผล ทำความสะอาดเนื้อตัว เช็ดขี้มูก ขี้ตาที่เกรอะกรังอยู่บนใบหน้า ส่วนสัตว์ที่อาการหนักจะได้รับการเคลื่อนย้ายเข้ามายังคลีนิคเพื่อรับการรักษาจากสัตว์แพทย์ประจำมูลนิธิฯ อย่างใกล้ชิด
จวบจนกระทั่งบ่าย ...ก็จะมีกิจกรรมการให้อาหารสัตว์อีกรอบ...อาหารประจำวันนั้น หากไม่ใช่ข้าวต้มผสมกระดูกไก่หรือไก่บด ก็จะเป็นอาหารเม็ด หมุนเวียนกันไป เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซาก...เพราะเจ้าหน้าที่ที่นี่ต่างก็รับรู้ว่า สัตว์ก็มีหัวใจ รู้จักเบื่อหน่ายอาหารซ้ำซากเช่นเดียวกับมนุษย์อย่างเราๆ หากสัตว์ตัวใดก็ตามที่เจ็บป่วยมีปัญหาในเรื่องของการย่อย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะจัดเตรียมอาหารพิเศษที่ย่อยง่าย รวมถึงลูกสุนัขตัวน้อยๆที่ติดท้องแม่พิการเข้ามา ทางมูลนิธิฯก็จะมีนม มีอาหารอ่อนๆจัดเตรียมไว้สำหรับเจ้าตัวน้อยเหล่านี้
เจ้าหน้าที่ทั้งหมด นอกจากจะมีภารกิจรับผิดชอบชีวิตพิการเหล่านี้แล้ว ยามว่างยังต้องช่วยกัน ดูแลรักษาสวน หากใครที่มีทักษะทางช่าง ก็จะต้องรับหน้าที่ซ่อมบำรุง ต่อเติมกรง ที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ทั้งหลาย ร่วมแรงแข็งขัน ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูง กระทั่งลงมาถึงพนักงานระดับล่างๆ เพราะต่างก็รู้ว่า ปัจจัยสำคัญก็คือ “เงิน” นั้น มีที่มาทางเดียวนั่นก็คือ ได้รับบริจาคจากผู้ที่มีใจเมตตาต่อสัตว์ หากไม่ช่วยกันประหยัดแล้ว บ้านแห่งความรักและเอื้ออาทรหลังนี้ก็จะไม่สามารถอยู่ได้ในที่สุด สมาชิกที่เป็นคนทุกในบ้านหลังนี้ ต่างก็จะมีสมาชิกที่เป็นสัตว์พิการโดยเฉพาะหมา พิการที่ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว กลายมาเป็นองครักษ์คอยติดตาม "เจ้านาย" ต้อยๆ อย่าง หมอต๋อง อดีตสัตว์แพทย์ประจำมูลนิธิฯ จะมี "ไอ้ช้าง" มัลตีฟผสมร่างยักษ์ ซึ่งเป็นขี้เรื้อนเกือบทั้งตัว (ได้รับการรักษาหายแล้ว) คอยติดตามเป็นเงา ...ความรักมากมายที่เจ้าหมาเฒ่าทารกตัวนี้มอบให้กับหมอต๋อง ทำให้หมอต๋องต้องจำใจสละเตียงนอนแสนรักให้กับไอ้ช้าง โดยตัวเองระเห็จลงมานอนกับพื้นส่วนป้าหน่อย เจ้าหน้าที่ประจำคลีนิคมีลูกๆ(หมา) ในความดูแลถึง 3 ตัว ปุยฝ้าย ไจแอนท์ โกโก้ และกลายเป็นภาพเจนตา สำหรับแขกขาประจำและขาจรทั้งหลายที่มาเยี่ยมเยือนมูลนิธิฯจะเห็น เหล่าบรรดาสี่ขา ตาหวาน ลากขาตาม “นายๆ” ออกมารับแขกกันเป็นที่เอิกเกริก
มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ให้ความอนุเคราะห์ และช่วยเหลือสัตว์ที่พิการและเจ็บป่วย อาทิเช่น สุนัข แมว นก เต่า และปลา โดยมีสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ตัว และในปีนี้นับเป็นปีที่ 22 ที่ได้ดำเนินมาของบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ โดยได้รับความอนุเคราะห์เงินบริจาคและความเมตตาจากพระเดชพระคุณเจ้าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปที่ช่วยให้มูลนิธิฯ ดำเนินงานมาได้จนปัจจุบัน
ขณะนี้มูลนิธิฯเริ่มเป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอกมากยิ่งขึ้น ผลสะท้อนที่ส่งกลับมายังมูลนิธิฯได้ 2 ทาง กล่าวคือ ได้มีผู้ที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ อาหาร ยาและปัจจัยเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งดีงามที่มูลนิธิฯได้มีโอกาสช่วยเหลือสัตว์และเพื่อนร่วมเลี้ยงสัตว์ด้วยกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีจำนวนสัตว์พิการถูกทอดทิ้งหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของมูลนิธิฯเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้สุนัขและแมวอยู่กันอย่างแออัดส่งผลให้สุขภาพสัตว์ไม่แข็งแรงทั้งทางร่างกายโดยเฉพาะสุนัขที่ทุพลภาพพิการ และสุนัข-แมวที่เป็นโรคผิวหนังเป็นต้น จากปัญหาดังกล่าวข้างต้นเป็นสิ่งกดดันให้มูลนิธิฯ พร้อมคณะกรรมเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องที่อยู่อาศัยของสัตว์พิการและจรจัดเหล่านี้ให้มีที่อยู่อย่างเพียงพอ
มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ให้ความอนุเคราะห์ และช่วยเหลือสัตว์ที่พิการและเจ็บป่วย อาทิเช่น สุนัข แมว นก เต่า และปลา โดยมีสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ตัว และในปีนี้นับเป็นปีที่ 22 ที่ได้ดำเนินมาของบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ โดยได้รับความอนุเคราะห์เงินบริจาคและความเมตตาจากพระเดชพระคุณเจ้าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปที่ช่วยให้มูลนิธิฯ ดำเนินงานมาได้จนปัจจุบัน
ครอบครัวคุณศตพร ดีพา (เรณู จุลสุคนธ์) ได้ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆเหล่านั้น มาตั้งแต่ปี 2524 ต่อมาเมื่อสัตว์แข็งแรง หายจากการเจ็บป่วยก็เลยเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา กลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกภายในครอบครัว เมื่อเพิ่มจำนวนมากขึ้น สถานที่คับแคบ และเป็นภาระที่ต้องเลี้ยงดู ประกอบกับสัตว์ส่งเสียงดัง ส่งกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้าน จึงต้องย้ายสถานที่เลี้ยงออกไปนอกเมือง โดยตั้งชื่อว่า "บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ"
ต่อมาในปี 2532 คุณชวนชื่น โกมารกุล ณ นคร (ยั่งยืน) ได้ทราบข่าวและมาเยี่ยม แสดงประสงค์ให้ความช่วยเหลือ จึงจัดซื้อที่ดินบริจาค 200 ตารางวา ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมสร้างโรงเรือนถาวรให้ในปี พ.ศ. 2533 ในปี 2536 หลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้เมตตามาเยี่ยมโปรดสัตว์พิการ ได้เห็นถึงสภาพปัญหา และภาระของการเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ จึงจัดสร้างอาคาร และซื้อที่ดินติดกันให้อีก 1 ไร่ และอนุญาตให้ตั้งเป็น "มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน)" มาจนทุกวันนี้
ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้อุปการะสัตว์พิการ อาทิเช่น สุนัข แมว ลิง เต่า และสัตว์พิการอื่นๆ โดยเฉพาะสุนัขมีประมาณ 700-800 ตัว แมวประมาณ 100 กว่าตัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ให้ความสงเคราะห์สัตว์พิการที่บาดเจ็บ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีเจ้าของ ให้ได้รับการรักษา มีที่พักพิง และอยู่อาศัยตามอัตภาพ โดยมีสัตว์แพทย์ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร คอยให้การดูแลช่วยเหลือ
"ตัวเองเป็นคนรักสัตว์ค่ะ รักหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นอะไร แม้แต่ต้นไม้ก็ยังรัก ยิ่งมาเห็นสัตว์ป่วย สัตว์พิการ ก็ยิ่งสงสารมัน เคยมีคนถามว่า มาทำงานนี่ทำไม ทำไปแล้วได้อะไร ดิฉันก็ถามตัวเองอยู่เหมือนกัน คำตอบที่ได้คือ หมาที่ถูกรถชนมันเจ็บปวดแต่พูดไม่ได้ แต่มันก็ต้องการอะไรเหมือนเรา พอเรายื่นเข้าไปช่วย ให้ยา ให้ข้าว ให้น้ำ บางตัวพอหายดีแล้ว เห็นหน้าเรามันดีใจมาก ตามันจะฉ่ำไปด้วยความปลาบปลื้ม นี่คือคำตอบว่า "ทำไม" นั่นคือความภูมิใจลึกๆ มาตลอดระยะเวลาการทำงานกว่า 20 ปี ถึงจะมีปัญหามากมายในการทำงาน หรือมีความทุกข์บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มีความสุข มีความสุขที่ได้ทำ และได้เห็นงานที่เราเริ่มต้น มันไปได้ดี"
"เริ่มต้นจากการพบเห็นและเก็บสัตว์มาเลี้ยงไว้ด้วยความรัก ความเมตตาและอาทร ต่อมาได้เห็นสัตว์ถูกรถชน ถูกทำร้าย ถูกปล่อยทิ้งและจรจัดขาดที่พึ่งและเป็นที่รังเกียจต่อสังคม
ต่อมาในปี 2532 คุณชวนชื่น โกมารกุล ณ นคร (ยั่งยืน) ได้ทราบข่าวและมาเยี่ยม แสดงประสงค์ให้ความช่วยเหลือ จึงจัดซื้อที่ดินบริจาค 200 ตารางวา ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมสร้างโรงเรือนถาวรให้ในปี พ.ศ. 2533 ในปี 2536 หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้เมตตามาเยี่ยมโปรดสัตว์พิการ ได้เห็นถึงสภาพปัญหา และภาระของการเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ จึงจัดสร้างอาคาร และซื้อที่ดินติดกันให้อีก 1 ไร่ และอนุญาตให้ตั้งเป็น "มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)" มาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้อุปการะสัตว์พิการ อาทิเช่น สุนัข แมว ลิง เต่า และสัตว์พิการอื่นๆ โดยเฉพาะสุนัขมีประมาณ 700-800 ตัว แมวประมาณ 100 กว่าตัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ให้ความสงเคราะห์สัตว์พิการที่บาดเจ็บ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีเจ้าของ ให้ได้รับการรักษา มีที่พักพิง และอยู่อาศัยตามอัตภาพ โดยมีสัตว์แพทย์ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร คอยให้การดูแลช่วยเหลือ
บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ณ บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 1 ซอยพระมหาการุณย์ ถ.ติวานนท์ อ. ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นที่รวมของบรรดาสัตว์พิการกว่า 1,000 ชีวิต ทั้งหมา แมว นก เต่า ลิง ชะนี ฯลฯ ทุกชีวิตเหล่านี้ล้วนพิกลพิการ อันเนื่องมาจากการทารุณของทั้งน้ำมือมนุษย์และสัตว์ด้วยกันเอง ศตพร ดีพา หรือที่รู้จักกันมานานในนาม "เรณู จุลสุคนธ์" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิฯ ได้เริ่มต้นกิจกรรมแห่งความเมตตาสัตว์พิการที่น่าสงสารเหล่านี้มานานกว่า 20 ปี... 20 ปีแห่งหยาดเหงื่อและน้ำตา เพื่อเพื่อนร่วมโลกที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เหล่านี้ 06.00 น. เริ่มต้นที่เหล่าบรรดาพนักงานกว่า 20 ชีวิต ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่อย่างแข็งขัน บ้างล้าง ทำความสะอาดที่อยู่สัตว์ บ้างจัดเตรียมอาหารเช้าสำหรับสัตว์ บ้างออกตรวจเช็คดูสภาพสัตว์เลี้ยง หากตัวใดที่มีอาการเจ็บป่วยธรรมดา พนักงานก็จะดูแลกันไป โดยทำความสะอาดแผล ทำความสะอาดเนื้อตัว เช็ดขี้มูก ขี้ตาที่เกรอะกรังอยู่บนใบหน้า ส่วนสัตว์ที่อาการหนักจะได้รับการเคลื่อนย้ายเข้ามายังคลีนิคเพื่อรับการรักษาจากสัตว์แพทย์ประจำมูลนิธิฯ อย่างใกล้ชิด
จวบจนกระทั่งบ่าย ...ก็จะมีกิจกรรมการให้อาหารสัตว์อีกรอบ...อาหารประจำวันนั้น หากไม่ใช่ข้าวต้มผสมกระดูกไก่หรือไก่บด ก็จะเป็นอาหารเม็ด หมุนเวียนกันไป เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซาก...เพราะเจ้าหน้าที่ที่นี่ต่างก็รับรู้ว่า สัตว์ก็มีหัวใจ รู้จักเบื่อหน่ายอาหารซ้ำซากเช่นเดียวกับมนุษย์อย่างเราๆ หากสัตว์ตัวใดก็ตามที่เจ็บป่วยมีปัญหาในเรื่องของการย่อย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะจัดเตรียมอาหารพิเศษที่ย่อยง่าย รวมถึงลูกสุนัขตัวน้อยๆที่ติดท้องแม่พิการเข้ามา ทางมูลนิธิฯก็จะมีนม มีอาหารอ่อนๆจัดเตรียมไว้สำหรับเจ้าตัวน้อยเหล่านี้
เจ้าหน้าที่ทั้งหมด นอกจากจะมีภารกิจรับผิดชอบชีวิตพิการเหล่านี้แล้ว ยามว่างยังต้องช่วยกัน ดูแลรักษาสวน หากใครที่มีทักษะทางช่าง ก็จะต้องรับหน้าที่ซ่อมบำรุง ต่อเติมกรง ที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ทั้งหลาย ร่วมแรงแข็งขัน ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูง กระทั่งลงมาถึงพนักงานระดับล่างๆ เพราะต่างก็รู้ว่า ปัจจัยสำคัญก็คือ “เงิน” นั้น มีที่มาทางเดียวนั่นก็คือ ได้รับบริจาคจากผู้ที่มีใจเมตตาต่อสัตว์ หากไม่ช่วยกันประหยัดแล้ว บ้านแห่งความรักและเอื้ออาทรหลังนี้ก็จะไม่สามารถอยู่ได้ในที่สุด สมาชิกที่เป็นคนทุกในบ้านหลังนี้ ต่างก็จะมีสมาชิกที่เป็นสัตว์พิการโดยเฉพาะหมา พิการที่ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว กลายมาเป็นองครักษ์คอยติดตาม "เจ้านาย" ต้อยๆ อย่าง หมอต๋อง อดีตสัตว์แพทย์ประจำมูลนิธิฯ จะมี "ไอ้ช้าง" มัลตีฟผสมร่างยักษ์ ซึ่งเป็นขี้เรื้อนเกือบทั้งตัว (ได้รับการรักษาหายแล้ว) คอยติดตามเป็นเงา ...ความรักมากมายที่เจ้าหมาเฒ่าทารกตัวนี้มอบให้กับหมอต๋อง ทำให้หมอต๋องต้องจำใจสละเตียงนอนแสนรักให้กับไอ้ช้าง โดยตัวเองระเห็จลงมานอนกับพื้นส่วนป้าหน่อย เจ้าหน้าที่ประจำคลีนิคมีลูกๆ(หมา) ในความดูแลถึง 3 ตัว ปุยฝ้าย ไจแอนท์ โกโก้ และกลายเป็นภาพเจนตา สำหรับแขกขาประจำและขาจรทั้งหลายที่มาเยี่ยมเยือนมูลนิธิฯจะเห็น เหล่าบรรดาสี่ขา ตาหวาน ลากขาตาม “นายๆ” ออกมารับแขกกันเป็นที่เอิกเกริก
มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ให้ความอนุเคราะห์ และช่วยเหลือสัตว์ที่พิการและเจ็บป่วย อาทิเช่น สุนัข แมว นก เต่า และปลา โดยมีสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ตัว และในปีนี้นับเป็นปีที่ 22 ที่ได้ดำเนินมาของบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ โดยได้รับความอนุเคราะห์เงินบริจาคและความเมตตาจากพระเดชพระคุณเจ้าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปที่ช่วยให้มูลนิธิฯ ดำเนินงานมาได้จนปัจจุบัน
ขณะนี้มูลนิธิฯเริ่มเป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอกมากยิ่งขึ้น ผลสะท้อนที่ส่งกลับมายังมูลนิธิฯได้ 2 ทาง กล่าวคือ ได้มีผู้ที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ อาหาร ยาและปัจจัยเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งดีงามที่มูลนิธิฯได้มีโอกาสช่วยเหลือสัตว์และเพื่อนร่วมเลี้ยงสัตว์ด้วยกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีจำนวนสัตว์พิการถูกทอดทิ้งหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของมูลนิธิฯเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้สุนัขและแมวอยู่กันอย่างแออัดส่งผลให้สุขภาพสัตว์ไม่แข็งแรงทั้งทางร่างกายโดยเฉพาะสุนัขที่ทุพลภาพพิการ และสุนัข-แมวที่เป็นโรคผิวหนังเป็นต้น จากปัญหาดังกล่าวข้างต้นเป็นสิ่งกดดันให้มูลนิธิฯ พร้อมคณะกรรมเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องที่อยู่อาศัยของสัตว์พิการและจรจัดเหล่านี้ให้มีที่อยู่อย่างเพียงพอ
มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ให้ความอนุเคราะห์ และช่วยเหลือสัตว์ที่พิการและเจ็บป่วย อาทิเช่น สุนัข แมว นก เต่า และปลา โดยมีสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ตัว และในปีนี้นับเป็นปีที่ 22 ที่ได้ดำเนินมาของบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ โดยได้รับความอนุเคราะห์เงินบริจาคและความเมตตาจากพระเดชพระคุณเจ้าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปที่ช่วยให้มูลนิธิฯ ดำเนินงานมาได้จนปัจจุบัน
วัตถุประสงค์
1. เพื่อการศึกษาในกระบวนการออกแบบโปสการ์ด"มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)"
2. เพื่อผลิตต้นแบบเหมือนจริง (prototype) "มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)"
3. เพื่อการหาเงินบริจาคทุนให้กับ "มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)"
สมมติฐาน/แรงบันดาลใจ
เพื่อให้มนุษย์หันกับมองสิ่งที่ใกล้ตัว(สุนัข)ที่เป็นเลี้ยงสัตว์ที่ดีของมนุษย์ด้วยกัน โดยให้โอกาสช่วยเหลือสัตว์ทำให้สุนัขและแมวอยู่กันอย่างแออัดส่งผลให้สุขภาพสัตว์ไม่แข็งแรงทั้งทางร่างกายโดยเฉพาะสุนัขที่ทุพลภาพพิการ และสุนัข-แมวที่เป็นโรคผิวหนังเป็นต้น จากปัญหา
ขอบเขตของงาน
ขณะนี้มูลนิธิฯเริ่มเป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอกมากยิ่งขึ้น ผลสะท้อนที่ส่งกลับมายังมูลนิธิฯได้ 2 ทาง กล่าวคือ ได้มีผู้ที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ อาหาร ยาและปัจจัยเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งดีงามที่มูลนิธิฯได้มีโอกาสช่วยเหลือสัตว์และเพื่อนร่วมเลี้ยงสัตว์ด้วยกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีจำนวนสัตว์พิการถูกทอดทิ้งหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของมูลนิธิฯเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้สุนัขและแมวอยู่กันอย่างแออัดส่งผลให้สุขภาพสัตว์ไม่แข็งแรงทั้งทางร่างกายโดยเฉพาะสุนัขที่ทุพลภาพพิการ และสุนัข-แมวที่เป็นโรคผิวหนังเป็นต้น จากปัญหาดังกล่าวข้างต้นเป็นสิ่งกดดันให้มูลนิธิฯ พร้อมคณะกรรมเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องที่อยู่อาศัยของสัตว์พิการและจรจัดเหล่านี้ให้มีที่อยู่อย่างเพียงพอ
IDEA SKETCH
การออกแบบโปสการ์ดฯชิ้นนี้ได้นำเอา IDEA มาจากการพูดการตะโกนโดยใช้ตัวหนังสือเป็นสื่อในการออกแบบโดยมีตัวสุนัขเป็นตัวสื่อสารให้มนุษย์รับรู้ถึงความรู้สึกและมีการใช้คำพูดมาเรียงให้เป็นความหมายโดยเป็นการออกแบบที่เรียบง่าย
CONCEPT SKETCH
การออกแบบโปสการ์ดฯชิ้นนี้ เป็นการออกแบบที่เรียบง่ายโดยใช้การจัดวาง โชว์ตัวหนังสือให้มีความรู้สึกว่าเหมือนเป็นคำพูดที่ตะโกนออกไปจากตัวแบ็คกราวค์ทำให้ดูตัวหนังสือโดดเด่นโดยใช้การนำตัวหนังสือมาเรียงกันในแต่ละโปสการ์ดแล้วจะออกมามีความหมาย โดยความหมายของตัวหนังสือ คือ (หวังว่ามีใครมาช่วยให้มีความรู้สึก)
Package สำหรับใส่โปสเตอร์
แหล่งศึกษาข้อมูล
www.home4animals.org/index_th.asp
www.cartoon-dogs.com
นิตยสาร IDESIGN
นิตยสาร FINEA
ประโยชน์ที่ได้รับในการออกแบบโปสเตอร์ฯ
1. เพื่อการศึกษากระบวนการออกแบบโปสการ์ด"มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)" เพื่อเป็นสื่อในการหาเงินทุนไปรักษาสัตว์พิการ (โดยจำหน่ายในราคา 70 บาท)
2. เพื่อผลิตต้นแบบเหมือนจริง (prototype) โปสการ์ด"มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)"เพื่อเป็นสื่อในการหาเงินบริจาคทุนไปรักษาสัตว์พิการ (โดยจำหน่ายในราคา 70 บาท)
www.home4animals.org/index_th.asp
www.cartoon-dogs.com
นิตยสาร IDESIGN
นิตยสาร FINEA
ประโยชน์ที่ได้รับในการออกแบบโปสเตอร์ฯ
1. เพื่อการศึกษากระบวนการออกแบบโปสการ์ด"มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)" เพื่อเป็นสื่อในการหาเงินทุนไปรักษาสัตว์พิการ (โดยจำหน่ายในราคา 70 บาท)
2. เพื่อผลิตต้นแบบเหมือนจริง (prototype) โปสการ์ด"มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)"เพื่อเป็นสื่อในการหาเงินบริจาคทุนไปรักษาสัตว์พิการ (โดยจำหน่ายในราคา 70 บาท)